วันศุกร์ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง หอไข่มุก นครเซี่ยงไฮ้


หลังจากชมความงามในมุมสูงของนคร เซี่ยงไฮ้ ที่ระดับความสูง 267 เมตรจนจุใจแล้ว เราก็เกาะลิฟท์ลงมาชมพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ที่อยู่บริเวณชั้นล่างของหอคอยกันบ้างฮ่ะ

พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ที่จัดแสดงที่ หอไข่มุก แห่งนี้ คือพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งในลักษณะของการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมและความเป็นมาของนครเซี่ยงไฮ้ฮ่้ะ ด้านในพิพิธภัณฑ์จะจำลองร้านรวงต่าง ๆ ในสมัยจีนโบราณ ไม่ว่าจะเป็นร้านรวงต่าง ๆ หรือการใช้ชีวิตประจำวัน เรามาเดินชมแต่ละส่วนไปพร้อม ๆ กันนะคะ


เข้ามาภายในพิพิธภัณฑ์ ชั้นแรกจะมีจัดแสดงรถโบราณชนิดต่าง ๆ ที่มีใช้กันภายในเมืองเซี่ยงไฮ้ก่อนเลยฮ่ะ ซึ่งหน้าตาของรถโบราณเท่าที่เห็น ก็จะคล้าย ๆ รถโบราณของทางฝั่งยุโรปนั่นล่ะ


เมืองจีนในสมัยก่อนนั้นเปรีียบได้กับผลแตงโมลูกใหญ่ฮ่ะ คือเป็นผลแตงโมที่หวานฉ่ำที่มีคนต่างชาติเข้ามากอบโกยและแสวงหาผลประโยชน์กันมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสมัยราชวงศ์ชิงซึ่งเป็นราชวงศ์สุดท้ายก่อนการถูกปฏิวัติมาเป็นระบอบสาธารณรัฐโดย ซุน ยัดเซ็น ซึ่งช่วงนั้นถือเป็นช่วงที่จีนเกิดความรำส่ำระสายและความขัดแย้งขึ้นมากมายเลยทีเดียว ซึ่งหากจะให้อิชั้นเล่าแล้ว..คงยาวอ่ะฮ่ะ อุอุ..ยาวแต่สนุกนะ อยากฟังเปล่าาา..(ตึ่งโป๊ะ อุอุ..)


เล่าให้ฟังแบบย่นย่อละกันนิ ฟังไปชมภาพที่เก็บมาฝากกันไปพลาง ๆ ก็ละกัน เพราะอิ่ตาไกด์ท้องถิ่นประจำทริป ไม่ได้เข้ามาอรรถาธิบายแต่ละส่วนของพิพิธภัณฑ์ให้ฟังเลย(ฮ่วย) อาศัยความรู้พื้นฐานของอดีตนิสิตภาควิชาประวัติศาสตร์มาเล่าสู่กันฟังสักเล็กน้อยก็ละกัน


สมัยราชวงศชิงนั้น ก็คือรัชสมัยสุดท้ายที่ประเทศจีนปกครองโดยจักรพรรดิ์ฮ่ะ ความขัดแย้งในรัชสมัยนี้เกิดขึ้นเนื่องจาก ผู้ที่ก่อตั้งราชวงศ์นั้นคือชนกลุ่มน้อยของประเทศจีน นั่นก็คือ ชาวแมนจูแทนที่จะเป็นชาวฮั่นซึ่งเป็นคนกลุ่มใหญ่ของประเทศ ดังนั้นเมื่อชาวแมนจูสามารถยึดครองเมืองหลวงและปกครองประเทศได้ ก็ได้ออกกฎต่าง ๆ นานา เพื่อบังคับให้ชาวฮั่นอยู่ในอำนาจของตน อาทิเช่น การออกกฎให้ชาวฮั่นแต่งกายแบบชาวแมนจู การบังคับให้ชาวฮั่นไว้ทรงผมแบบชาวแมนจู โดยการโกนผมครึ่งหัวและถักเปียยาวซึ่งก็ขัดแย้งกับประเพณีของชาวฮั่นที่ห้ามตัดผม ซึ่งกว่า 258 ปีที่ชาวแมนจูปกครองจีนนี้ จีนได้เกิดกบฎขึ้นหลายครั้งหลายหน เนื่องจากความคับแค้นใจที่ถูกกดขี่ต่าง ๆ นานา


ถามว่าหากเกิดความขัดแย้งระส่ำระสายมากมายขนาดนั้น ทำไมชาวแมนจูจึงได้ปกครองชาวฮั่นและเมืองจีนได้นานถึง 258 ปี คำตอบก็คือ เพราะราชวงศ์ชิงฉลาดในการแก้ปัญหาค่ะ โดยการแก้ไขสถานการณ์ของราชวงศ์ชิง จะใช้ยุทธวิธีสองอย่างด้วยกัน ทั้งแบบประนีประนอมและแข็งกร้าว ซึ่งรายละเอียดยุทธวิธีทั้งสองอย่างนั้น หากใครสนใจก็สามารถหารายละเอียดเพิ่มเติมอ่านได้ทั่วไปน่ะนะคะ (คือ..ตกลงแกขี้เกียจเล่าชิมิ 5555+)


ราชวงศ์ชิงได้ปกครองจีนมานานเกือบ 300 ปีฮ่ะ ซึ่งในช่วงต้นราชวงศ์ก็มีความเจริญรุ่งเรืองพอสมควร จนกระทั่งในช่วงพุทธศตรวรรษที่ 24 ราชวงศ์ชิงก็เริ่มอ่อนแอลง เนื่องจากมีความขัดแย้งอย่างรุนแรงของกลุ่มคนในวงการต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการเมือง มีการฉ้อราษฐร์บังหลวง และทำสงครามอย่างบ่อยครั้ง จักพรรดิ์เฉียนหลง กษัตริย์ในช่วงนั้นก็เจ้าสำราญ ใช้ชีวิตหรูหราฟุ่มเฟือย เงินท้องพระคลังก็ขัดสน ชาวบ้านยากจนข้นแค้นเนื่องจากประชากรเพิ่มขึ้น ขาดแคลนที่ดินทำกิน ประกอบกับต้องพบเจอกับภาวะความกดดันจากภายนอก มหาอำนาจต่างชาติเริ่มเข้าสู่ยุคล่าอาณานิคม ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อจีนอ่อนแอก็หนีไม่พ้นที่จะต้องถูกชาวต่างชาติเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์อย่างช่วยเหลือตัวเองไม่ได้


การเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวอังกฤษเริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ฮ่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การค้าฝิ่น ซึ่งถือเป็นสิ่งเสพติดที่ทำให้ผู้คนติดกันอย่างหนัก และระบาดไปทั่วประเทศ


ดังนั้นในสมัยจักรพรรดิ์เต้ากวง ซึ่งทรงมีพระราชดำริจะปราบปรามการค้าฝิ่นให้สิ้นซาก จึงได้ทรงแต่งตั้งให้หลินเจ๋อสวี เป็นผู้ตรวจราชการสองมณฑล และเป็นผู้นำในการกวาดล้างฝิ่นให้หมดไปจากแผ่นดินจีน


เดินชมในส่วนของพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ของเมืองเซี่ยงไฮ้ไปเรื่อย ๆ นะคะ ฮุฮุ..ใครขี้เกียจอ่านประวัติศาตร์จีนก็ข้าม ๆ ไปก็ได้เน้อ..แหะ ๆ อิชั้นเสียนิสัยอยู่อย่างนึง เวลาเล่าอะไรแล้ว ชอบเล่ายาว ๆ ง่ะ


บรรยากาศในตลาด


ร้านขายเนื้อ


 ร้านขายเหล้า


ในตอนหน้าของบล็อกทริปถูกใจ เรามาเดินเที่ยวชมภายในพิพิธภัณฑ์กันต่อนะคะ เดี๋ยวจะเหน็บเอาความเข้มข้นในช่วงของการเกิดสงครามฝิ่นในเมืองจีนมาฝากกันอีกสักเล็กน้อยด้วยค่ะ

แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai
อ้างอิงข้อมูลจาก วิกิพีเดีย