วันศุกร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2556

ข้อมูลก่อนไปเที่ยวจีน ตอนที่ 2


เมื่อตอนที่แล้ว ทริปถูกใจ นำข้อมูลที่น่าสนใจบางส่วนเกี่ยวกับสภาพภูมิประเทศและการปกครองของ จีน มาฝากกันไปแล้วน่ะนะคะ ตอนนี้ข้ามมาถึงเกล็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เราน่าจะได้ใช้ตอนเราไปเที่ยวที่โน่นกันบ้าง นั่นก็คือ สภาพอากาศ,สกุลเงิน และเวลาในประเทศจีนนั่นเองค่ะ


สำหรับสภาพภูมิอากาศของจีนนั้น เนื่องจากเมืองจีนมีพื้นที่กว้างใหญ่ ดังนั้นสภาพอากาศจึงแตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ แต่โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถแบ่ง สภาพภูมิอากาศของจีน ออกได้เป็น 4 ฤดูค่ะ นั่นก็คือ ฤดูใบไม้ผลิ,ฤดูร้อน,ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว หากแต่ด้วยสภาพภูมิประเทศที่กว้างขวาง และมีหลากหลายรูปแบบอากาศของแต่ละพื้นที่จึงมักจะมีความซับซ้อนตามไปด้วย เช่น มีฤดูฝนปนอยู่กับฤดูร้อน หรือมีอากาศร้อนที่มีช่วงเวลาสั้น ๆ ปนอยู่ในฤดูหนาวที่หนาวจัดมาก ๆ โดยเราสามารถแบ่งช่วงเดือนของแต่ละฤดูได้ดังนี้นะคะ

ฤดูใบไม้ผลิื เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม-พฤษภาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 10-22 องศาเซลเซียส
ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 22 องศาเซลเซียสขึ้นไป (บางครั้งสูงได้ถึง 40 องศาเซลเซียส)
ฤดูใบไม้ร่วง เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน-ตุลาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณ 10-22 องศาเซลเซียส
และ ฤดูหนาว จะเริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-กลางเดือนมีนาคม อุณหภูมิจะอยู่ที่ประมาณต่ำกว่า 10 องศาเซลเซียส (และต่ำได้มาก ๆ จนถึงตัวเลขติดลบกันเลยทีเดียว)

ดังนั้นหากดูจากสภาพอากาศที่หาข้อมูลมาฝากข้างต้น ช่วงที่เหมาะจะเดินทางไปเยือนจีน ก็คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิค่ะ นั่นก็คือประมาณเดือนพฤษภาคม และช่วงฤดูใบไม้ร่วงประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม  แต่หากชอบอากาศที่หนาวเย็นเดินเที่ยวแบบสบาย ๆ ก็ควรไปช่วงประมาณต้นเดือนเมษายนถึงปลายเดือนเมษายนน่ะนะคะ

มาถึงเรื่องสกุลเงินของจีนกันบ้างค่ะ จีนนั้นมีสกุลเงินที่เราเรียกกันว่า หยวน หรือภาษาจีนเรียกว่า เหยินหมินปี้-RMB ซึ่ง ณ.วันที่เดินทางไป (วันที่ 31 มีนาคม 2556) อัตราแลกเปลี่ยนจะอยู่ที่ราว 5 บาท ต่อ 1 หยวน นั่นก็คือ หากคุณจะซื้อของในเมืองจีน ก็เอา 5 บาทคูณเข้าไป ก็จะได้เป็นราคาเงินไทยนั่นเอง

นอกจากนี้แล้วก็ยังมีเรื่องของเขตเวลาค่ะ เวลาในประเทศจีน นั้นจะเร็วกว่าเมืองไทยเรา 1 ชั่วโมง สำหรับคนที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าหรืออิเลคโทรนิคซ์ทั้งหลายแหล่ติดไปด้วย เช่น ไดร์เป่าผม,ที่ม้วนผม,กล้อง,มือถือ ก็สามารถใช้ปลั๊กเสียบใช้งานในห้องพักได้ทุกที่ เนื่องจากเมืองจีนใช้รูปแบบปลั๊กและกระแสไฟ 220 โวลล์เท่าเมืองไทยเรา จึงไม่ต้องยุ่งยากในการพกอุปกรณ์แปลงกระแสไฟฟ้าต่าง ๆ นานาไปด้วยน่ะนะคะ


เรียบเรียงข้อมูลโดย Pacharawalai
ข้อมูลและภาพประกอบจาก อินเตอร์เน็ต


ข้อมูลก่อนไปเที่ยวจีน ตอนที่ 1


เชื่อว่าเมื่อพูดถึงประเทศ จีน หลาย ๆ คนคงพอรู้จัก และนอกจากจะรู้จักแล้ว หลาย ๆ ท่านก็ยังมีญาติพี่น้อง อากง อาม่า อาเจ่ก อาอี๊ ที่เคยเดินทางจากประเทศจีนมาตั้งรกราก และก่อร่างสร้างตัวจนเป็นปึกแผ่นอยู่ในประเทศไทยด้วย

แอดมินก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เป็นลูกหลานของชาวจีนแผ่นดินใหญ่เช่นกันฮ่ะ เพราะก๋งของแอดมินนั้นหอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากเมืองจีนก่อนที่จะมามีครอบครัวในประเทศไทยของเรานี่แหละ และแน่นอนว่าเนื่องจากเทือกเถาเหล่ากอเป็นคนจีน แม้ว่าจะเหลือเพียงเศษเสี้ยวของเชื้อสาย แต่ลึก ๆ แล้วเราก็คือลูกหลานของชาวจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ดี และเป็นลูกหลานของชาวจีนแผ่นดินใหญ่ที่มีเชื้อสายไทยซึ่งรักชาติไทยอยู่ทุกขณะจิต รวมถึงเทิดทูนพ่อหลวงของปวงชนชาวไทยอยู่เหนือเกล้ากันทั้งครอบครัวด้วยน่ะนะคะ


สำหรับคนที่มีข้อมูลความรู้เกี่ยวกับ ประเทศจีน เพียงน้อยนิด อาจจะแค่รู้จักคร่าว ๆ ว่าจีนเป็นประเทศที่มีพื้นที่ที่มีระบอบการปกครองแบบคอมมิวนิสต์ (ซึ่งปัจจุบันลัทธิทุนนิยมได้คืบคลานเข้าไปสู่จีนมากแล้ว) มีเนื้อที่ที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และมีประชากรมากที่สุด กว่า 1.3 พันล้านคน แต่คงมีไม่กี่คนรวมทั้งอิชั้นด้วย ที่จะรู้ว่า นอกจากข้อมูลข้างต้นที่เรียนกันมาตั้งแต่สมัยประถม (โนมมหาลัย)แล้ว จีน..ยังถือว่าเป็นประเทศที่มีพื้นที่บนบกมากเป็นอันดับ 2 ของโลกอีกด้วย

ประเทศจีนนั้นตั้งอยู่ทางด้านตะวันออกของทวีปเอเชียของเรานี่เองฮ่ะ มีพรมแดนติดต่อกับประเทศต่าง ๆ โดยรอบถึง 15 ประเทศ นั่นก็คือ เกาหลีเหนือ รัสเซีย มองโกเลีย คาซัคสถาน เตอกิซสถาน ทาจิกิสถาน อัฟกานิสถาน ปากีสถาน อินเดีย เนปาล สิกขิม ภูฐาน พม่า ลาว และเวียดนาม ใจยณะที่ทางทิศตะวันออกและทิศใต้ของประเทศจีนเองก็จรดกับทะเลเหลือง ทะเลจีนตะวันออก และทะเลจีนใต้

พื้นที่ของจีนนั้นกว้างใหญ่ไพศาลมาก ๆ ค่ะ โดยรวมแล้วจีนมีพื้นที่ถึง 9.8 ล้านตารางกิโลเมตรเลยทีเดียว มีเส้นพรมแดนทางบกที่ยาวกว่า 2 หมื่นกิโลเมตร มีภูมิประเทศทางตะวันตกส่วนใหญ่เป็นเทือกเขา ทะเลทราย และที่ราบสูง โดยพื้นที่เหล่านี้จะค่อย ๆ ลาดลงทางทิศตะวันออก

รูปแบบการปกครองของจีนนั้น ก็คือ การปกครองในระบอบสังคมนิยมแบบจีนหรือที่เราเรียกกันติดปากว่าเป็นระบบการปกครองระบบคอมมิวนิสต์นั่นเองค่ะ คือมีพรรคการเมืองเพียงพรรคเดียว แม้ว่าจะมีการแบ่งการปกครองมากถึง 23 มณฑล 5 เขตปกครองตนเอง และอีก 4 เทศบาลนคร ได้แก่ ปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ และฉงชิ่ง นอกจากนี้ยังมี 2 เขตบริหารพิเศษ ซึ่งได้แก่ ฮ่องกงและมาเก๊า แต่ทุกเขตทุกมณฑล ก็ล้วนแล้วแต่มีเมืองหลวงอยู่ที่ ปักกิ่ง ภายใต้การบริหารประเทศของประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ก็คือ นายหู จิ่นเทา (Hu Jintao) และนายกรัฐมนตรี นายเวิน เจียเป่า (Wen Jiabao) นั่นเองน่ะนะคะ

ในตอนหน้าของบล็อกทริปถูกใจ เราจะมาศึกษาข้อมูลที่น่าสนใจของประเทศจีนแบบย่นย่อก่อนไปเที่ยวกันอีกตอนหนึ่งค่ะ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ



เรียบเรียงข้อมูลโดย Pacharawalai
ภาพประกอบจาก kesekolah.com/images2/big/2013022216010688166.jpg




เที่ยวจีน


ว่ากันว่าบางครั้งคนเราก็มักจะมีดวงชีพจรลงเท้าโดยไม่ได้ตั้งใจเสมอ..การเดินทางไปเที่ยวจีนในครั้งนี้ก็คงเข้าข่ายเดียวกันฮ่ะ คือจู่ ๆ ดวงเดินทางมันก็มาเคาะประตูบ้าน แถมหน้าตาของดวงก็ก็แปล๊ก..แปลก เพราะหน้าตามันคล้ายคลึงกับน้าสาวของอิชั้นยังไงก็ไม่รู้ อิอิ... >0</

"แก้มแหม่ม..ต้นเมษานี้ไปเที่ยว จีน กันมั้ย.." ไม่ต้องแปลกใจฮ่ะ ประโยคแรกเป็นชื่ือของแอดมินเอง (ชื่อน่ารักเนาะ ฮ่า ๆ ๆ) ส่วนประโยคหลังเป็นคำถามแกมคำชวน ซึ่งแน่นอนว่าคำตอบที่อิชั้นมีอยู่ในใจตั้งแต่ยังไม่จบประโยคของคำถามก็มีอยู่แล้ว ก็คือ..ไปไหนไปล่วย..เหลี๋ยวอั๊วช่วยสองบาก


จริง ๆ จะบอกว่าคำว่าช่วยสองบาทนี่ ก็ไม่ได้ช่วยเลยด้วยซ้ำน่ะนะคะ (แหะ ๆ) เพราะงานนี้ มีสปอนเซอร์ที่เป็นบริษัทขายปุ๋ยขายเคมีเกษตรซึ่งน้าสาวรับมาขายที่ร้านจ่ายให้ทั้งหมด ข้อแม้มีเพียงประการเดียวก็คือ ร้านค้าที่จะไปเที่ยวด้วย จะต้องสั่งสินค้าและทำยอดขายให้่ได้ตามที่เขากำหนดเท่านั้น

หมายกำหนดการเดินทางของทริปเที่ยวจีนในครั้งนี้ เราจะแวะแป๊บเดียวเที่ยวได้ถึง 4 เมืองด้วยกันฮ่ะ นั่นก็คือ มหานคร เซี่ยงไฮ้-หังโจว-ซูโจว และ อู๋ซี เห็นชื่อเมืองแยะ ๆ แบบนี้ อย่าแปลกใจนะเค๊อะ เพราะส่วนใหญ่แล้วการเดินทางกับบริษัททัวร์ทั่วไปมักเป็นเช่นนี้แหละ คือเน้นปริมาณมากกว่าคุณภาพไว้ก่อน สำหรับคนที่ตั้งใจจะไปเที่ยวแบบวิเคราะห์เจาะลึก หรือต้องการเที่ยวแบบประเด็นเด่นเย็นนี้ อาจจะต้องใช้การท่องเที่ยวแบบเหมารวมแบบนี้เป็นไกด์ไลน์เอาไว้เที่ยวทีหลังต่อ ยังไงก็เถอะ อย่างน้อย มันก็ทำให้เราพอจะรู้ว่าแต่ละเมืองมันมีอะไรที่น่าสนใจบ้างอ่ะนะคะ

เราจะออกเดินทางกันในวันที่ 31 มีนาคม 2556-4 เมษายน 2556 ค่ะ ซึ่งก่อนการเดินทางทุกครั้ง การบ้านที่อิชั้นต้องทำเสมอ ก็คือการหาข้อมูลของ สถานที่ท่องเที่ยว ต่าง ๆ ที่เค้าให้ลายแทงตามโปรแกรมท่องเที่ยวเอาไว้ เพื่อให้การเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละครั้งได้"อะไร"กลับมาบ้างเสมอ ซึ่งในบล็อกตอนหน้าของทริปถูกใจ เราจะมาดูข้อมูลรายละเอียดที่น่าสนใจของ ประเทศจีน เพื่อเป็นการปูพื้นกันก่อนนะคะ



เรื่องโดย Pacharawalai
ภาพประกอบจาก  http://thai-mobiles.com/