หลังจากเดินลงมาจากบนเขาหลิงซานซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระใหญ่หลิงซานต้าฝอเรียบร้อยแล้ว อิชั้นก็ขอมานั่งพักเหนื่อยก่อนฮ่ะ จริง ๆ ถ้าจะให้เดินเที่ยวที่วัดนี้ให้ทั่ว ๆ อิชั้นว่าคงต้องใช้เวลาเป็นวันเลยเชียวแหละ แต่เนื่องจากเรามากันในคราบกรุ้ปชะโงกทัวร์ เค้าปล่อยให้เดินเกือบสามชั่วโมงนี่ก็ดีนักหนาแล้ว
นาทีนี้ อิ่ป้าอยากพึ่งพาเสลี่ยงส่วนตัวมาก 5555+ Y.Y
หายเหนื่อยแล้วก็เดินกันต่อค่ะ เราคงต้องทำเวลากันหน่อย เพราะเดี๋ยวต้องเดินย้อนกลับไปชมการแสดงที่ลานน้ำพุซึ่งเป็นไฮไลต์ของที่นี่ตอนบ่ายสองอีก แต่แหม..ไอ้การวิ่งไปถ่ายรูปไปนี่มันทรมารสังขารอิชั้นเสียจริง นี่มันเป็นเหตุผลนึงที่ทำให้อิชั้นอยากจะไปเที่ยวที่ไกล ๆ ซะตั้งแต่อิ่ตอนแข้งขายังมีแรงก่อน เพราะขืนแก่ตัวไป คงไม่มีปัญญาวิ่งสู้ฟัดได้ขนาดนี้แน่ ๆ
เอาเป็นว่าฟังอิชั้นบ่นไป ชมรูปกันไปพลาง ๆ ก็ละกันนะคะ อิอิ..
มุมสวย ๆ ของที่วัดนี่เยอะอยู่ค่ะ แถมสถานที่ก็กว้างขวางจนเดินแทบไม่ทั่วถึง ดังนั้นถึงแม้ว่าผู้คนที่มาไหว้พระหรือมาท่องเที่ยวจะมากเพียงไร ก็ไม่รู้สึกว่าอึดอัดคับแคบ ยังพอจะเก็บภาพมุมต่าง ๆ ที่ไม่มีคนเดินไปเดินมาประกอบฉากได้มั่ง
วัดเขาหลิงซาน นั้นมีพื้นที่โดยรวมมากกว่า 7 หมื่นตารางเมตร และแบ่งโซนสถาปัตยกรรมออกเป็นสองฝั่ง ได้แก่ฝั่งตะวันออกและตะวันตก เดี๋ยวเราจะเดินข้ามไปชมอีกโซนนึงแบบรีบ ๆ กันสักนิดเนาะ
เดินจ้ำอ้าวมาอีกไกลพอดู ที่นี่คือ ศาลาฝานกง ค่ะ ใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมพุทธศาสนาโลก (World Buddhist Forum) ครั้งที่ 2 รูปแบบสถาปัตยกรรมแลดูแปลกตา ไม่ค่อยเหมือนวัดวาแบบจีน ๆ สักเท่าไหร่ ว่ากันว่าภายในสวยงามอลังการมาก เสียดายที่อิชั้นไม่มีเวลาเดินเข้าไปดูด้านใน เพราะใกล้จะถึงเวลาแสดงที่ลานน้ำพุเต็มทีแล้ว
หลังคาของศาลาหลังนี้เป็นรูปเจดีย์ 5 องค์ ข้อมูลที่รู้มาก็คือภายในห้องโถงของศาลาฝานกง จุคนได้ตั้ง 2,000 คนแน่ะ แถมยังใช้เป็นที่จัดแสดงละคอนโอเปร่าทางพุทธศาสนาเรื่อง "หนทางสู่นิพพาน" อีกด้วย.....อยากดูเนอะ กระซิก ๆ T^T
อ่ะ..ถ่ายรูปทำเวลากันได้เท่านี้เอง..ย้อนกลับไปดูการแสดงที่ลานน้ำพุด้วยกันดีกว่านะคะ
เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai