วันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2556

หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (ไว่ทัน)

หลังจากเที่ยวชมความงามมุมสูงของนคร เซี่ยงไฮ้ จากบนยอดหอไข่มุกอันเลื่องชื่อ ซึ่งถือเป็นไฮไลต์ที่นักท่องเที่ยวเกือบทุกคนจะต้องมาเยือนแล้ว หมู่เฮาชาวคณะก็เดินทางต่อกันไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่งของเซี่ยงไฮ้ฮ่ะ

เราจะไปเยือน หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ หรือ "ไว่ทัน" กันนะคะ

หาดเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้นั้น เป็นอีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างที่ถูกยกระดับให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรืองของจีนยุคใหม่ฮ่ะ สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในบริเวณริมแม่น้ำหวงผู่ ห่างเพียงถนนจงซานกั้น ซึ่งนอกจากจะได้ชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของแม่น้ำหวงผู่แล้ว ยังเต็มไปด้วยตึกและอาคารทรงสูงที่ออกแบบในสไตล์ยุโรป ตั้งเลียบไปตามส่วนโค้งของแม่น้ำยาวเหยียดสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว


ประมาณด้วยสายตาแล้ว ความสง่างามของสถาปัตยกรรมยุโรปที่เรียงรายบนถนนจงซานนั้น ยาวนับกิโลเมตรเลยทีเดียวค่ะ (ฝรั่งเรียกแถบนี้ว่า เดอะบันต์) นอกจากนี้แล้วเมื่อมองไปยังฝั่งตรงกันข้ามของแม่น้ำ เราก็จะได้เห็นหอคอยสูง หรือหอคอยไข่มุก ตั้งตระหง่านสวยงามอย่างชัดเจนอีกด้วย


ลมก็แรง หนาวก็หนาว ฟ้าก็หลัว แถมแดดก็หลบ..งื้ดดด.....แต่เราก็บ่ยั่น (ถึกจริงนะน้องนาง 555+)

ผู้คนที่มาเที่ยวชมหาดไว่ทันแห่งนี้มีล้นหลามทีเดียวฮ่ะ ถึงขนาดคุณไกด์ต้องออกปากเตือนว่า อย่าพกของมีค่าลงไปเดินจะดีกว่า เนื่องจากเมื่อมีคนเยอะ ก็ย่อมมีมิจฉาชีพแยะตามไปด้วย หรือถ้าใครจำเป็นต้องถือของมีค่าต่าง ๆ ลงไป ก็ให้ไขว้กระเป๋ามาแขวนทางด้านหน้าแล้วกอดไว้ เหอ ๆ ๆ อิชั้นว่า อิชั้นเอาไปแต่กล้องดีกั่วมะ..o_O"


ยังกะอยู่ในเมืองยุโรปแน่ะ..เนอะ


เห็นสถาปัตยกรรมแบบทางยุโรปอื้ออึงขนาดนี้ ทำให้อิชั้นต้องนึกย้อนกลับไปอิ่ตอนที่แล้ว ที่เล่าถึงการเข้ามาครอบครองหาผลประโยชน์จากจีนของชาวยุโรปและชาวต่างชาติในช่วงหนึ่งของประวัติศาตร์ฮ่ะ (ใครอยากอ่านย้อนหลัง กลับไปรื้อดูทริปถูกใจตอนที่แล้วเด้อ) สมัยก่อนนั้นเซี่ยงไฮ้เป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ เท่านั้นเองฮ่ะ เหตุการณ์มาพลิกผันเมื่อจีนเริ่มมีการประดิษฐ์คิดค้นวงล้อปั่นด้ายสำเร็จ ที่นี่จึงเริ่มมีการทอผ้ากันอย่างแพร่หลาย ซึ่งต่อมาก็ได้กลายเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงของเซี่ยงไฮ้ไปโดยปริยาย จากนั้นเมื่อมีการเปลี่ยนราชวงศ์จากราชวงศ์หยวนมาเป็นราชวงศ์หมิง เซี่ยงไฮ้ก็ถูกใช้เป็นหนึ่งในเมืองท่าและการเดินทางออกสู่ทะเล เนื่องจากถือว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นประตูสู่แม่น้ำแยงซีเกียง ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นเลือดใหญ่ของจีน


สถานการณ์การเป็นประตูสู่การค้าและการติดต่อกับซีกโลกตะวันตกของชาวจีนดำเนินเรื่องมาจนถึงกลางศตวรรษที่ 19 ฮ่ะ เมื่ออังกฤษส่งคนเข้ามาตั้งรกราก เพื่อกอบโกยผลประโยชน์จากการค้าฝิ่น  มีการเข้ามากอบโกยทรัพยากรจากจีน ซึ่งในเวลาต่อมา ชาติอื่น ๆ ก็เข้ามากอบโกยด้วย เช่น อเมริกา ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น ซึ่งพวกนี้เข้ามาได้โดยอาศัยสนธิสัญญานานกิงที่จีนจำใจทำไว้กับอังกฤษ ทำให้ต่างชาติเหล่านั้น มีสิทธิ์ในการเช่าที่ดินปลูกบ้านพักอาศัยเป็นการถาวรด้วย ซึ่งในเวลาต่อมาก็ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ "เขตเช่า" นั่นเองน่ะนะคะ

ในตอนหน้าใครชอบช้อปปิ้ง เราจะไปเดินแด่มแด้มกันแถวถนนนานกิง ซึ่งเป็นย่านเศราฐกิจที่เฟื่องฟูที่สุดในนครเซี่ยงไฮ้กันค่ะ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ


เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai