วันพุธที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ไหว้พระใหญ่แห่งวัดเขาหลิงซาน ตอนที่ 3


เดินละห้อยละเหี่ยจากปากทางเข้าของ วัดหลิงซาน ผ่านซุ้มประตูของทางวัดมาสองซุ้ม ที่สุดเราก็มาถึงบริเวณลานแสดงน้ำพุที่มีชื่เสียงของทางวัดจนได้ค่ะ


ที่ตั้งตระหง่านใหญ่โตรโหฐานอยู่กลางลานนั่นก็คือดอกบัวซึ่งอยู่ใจกลางบ่อน้ำพุน่ะนะคะ ซึ่งตรงจุดนี้ไกด์ท้องถิ่นแจ้งมาตั้งแต่หน้าประตูแล้ว ว่าจะมีการแสดงน้ำพุช่วงเวลาบ่ายสองของทุกวัน วันละหนึ่งรอบ ดังนั้นเราจึงมีเวลาเดินไปนมัสการพระใหญ่ที่เห็นลิบ ๆ นู้นก่อน (อิชั้นแอบท้อเล็กน้อย มืิอไม้สั่นเพราะวิ่งไปถ่าย(รูป)ไปโดยไม่ได้ท้องเสียมาตลอดทาง 555+ T^T)


ณ.จุดนี้ อิ่ป้านี่ก็ขอแวะทำแต้มอีกแล้ว >0</


ระหว่างทางก็ชื่นชมความหล่อ..เอ๊ย..ความงามของสถานที่ไปเรื่อย ๆ ค่ะ ภาพบนนั้นก็คือนักท่องเที่ยวชาวอะไรก็ไม่รู้ยืนให้อาหารนกเค้าแมว เย้ยยย...นกพิราบอ้วนอยู่ฮ่ะ..ขอบอกว่านกมันเชื่องมาก อิชั้นแอบสงสัยว่าไอ้ที่มันไม่บินหนีก็อาจจะเป็นเพราะว่าไขมันมันจุกอกจนบินไม่ขึ้นแล้วก็เป็นได้


มาถึงจุดที่น่าสนใจจุดที่สองค่ะ นั่นก็คือจุดที่มีประติมากรรมภาพแกะสลักย่อเรื่องราวพุธประวัติขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตั้งแต่ทรงออกผนวชระเรื่อยมาจนถึงทรงตรัสรู้เลยทีเดียว รายละเอียดสวยงามครบถ้วนน่าตื่นตาตื่นใจ ชาวจีนนี่ลองตั้งใจทำอะไรแล้วก็ไม่แพ้ชาติใดในโลกจริง ๆ


สวยงามมาก ๆ เลย ถ่ายรูปพอให้รู้ว่ามาถึงแล้วสักเล็กน้อยเนาะ...เอิ่ม..เหมือนเช็คจุด RC เลยแฮะตรู..


ณ.จุดนี้อนุญาตให้ไปดื่มน้ำปัส..เอ๊ย..เข้าห้องน้ำได้ตามสะดวกค่ะ แล้วเรามาเดินเที่ยวชมความงามอลังการของวัดกันต่อในครั้งหน้านะคะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai





วันอังคารที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ไหว้พระใหญ่แห่งวัดเขาหลิงซาน ตอนที่ 2



ต้องพยายามเตือนตัวเองไม่ให้ขี้เกียจเขียน 555+ เพราะทริปใกล้งอกเต็มทีละ ขืนหมักเรื่องเที่ยวเอาไว้นาน ๆ อิชั้นคงลืมมันก่อนแน่ ๆ T^T

อ่ะ..มาจะกล่าวบทไปเมื่อคราวที่แล้ว อิชั้นพาทุกท่านมาทำความรู้จักกันคร่าว ๆ เกี่ยวกับ วัดหลิงซาน แห่งเมือง อู๋ซี กันไปบ้างแล้วน่ะนะคะ และก็อย่างที่หลายคนทราบ (แน่ใจเหรอว่าหลายคนเค้าทราบแล้ว 555+) ว่าที่วัดแห่งนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปโลหะองค์ใหญ่ ที่มีความสูงถึง 88 เมตร และมีน้ำหนักมากกว่า 700 ตันเลยทีเดียว ดังนั้นที่นี่จึงเป็นทั้งสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่ที่คนจีนและผู้มาเยือนตั้งใจมาเยี่ยมชมกันน่ะนะคะ

ต้องขอบอกว่าวัดหลิงซานแห่งนี้เป็นวัดที่มีพื้นที่กว้างขวางมากกก..ถึงมากที่สุดเท่าที่อิชั้นเคยเดินมาเลยฮ่ะ จากข้อมูลของไกด์ท้องถิ่นที่ให้มา ทราบว่าที่นี่มีพื้นที่มากถึง 7 หมื่นตารางเมตรกันเลยสองที (บรรทัดข้างบนนั้นมีเลยทีเดียวไปแล้ว หนูกลัวซ้ำ..เย้ย..) โดยแบ่งพื้นที่แต่ละโซนทำการสร้างสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาต่าง ๆ เรามาเดินเที่ยวชมกันเท่าที่เวลามีอย่างจำกัดกันนะคะ  (กัดฟันกรอด ๆ เพราะมีเวลาน้อยนิดซะเหลือเกิน)


เริ่้มกันตั้งแต่ด้านหน้าเลยค่ะ มีซุ้มประตูใหญ่ก่อนเข้าไป ซึ่งแน่นอนว่าเราต้องซื้อบัตรผ่านประตูกันซะตั้งแต่ตรงนี้ แต่เนื่องจากอิชั้นมากับทัวร์ งานนี้ก็เลยไม่ต้องจ่าย 5555+ สนุกจังตังค์อยู่ครบอีกแล้วตรู


เข้ามาด้านในแล้วค่ะ ทางด้านขวามือก่อนจะข้ามสะพานเข้าไปยังส่วนที่มีสถาปัตยกรรมทางพุทธศาสนาที่มีชื่อเสียงอยู่ มีออฟฟิศขายตั๋วรถไฟฟ้าสำหรับนั่งเที่ยวชมรอบบริเวณด้วยนะ อิชั้นว่าดีเหมือนกัน เพราะจากที่คะเนดู วัดแห่งนี้มีพื้นที่กว้างขวางเอามาก ๆ แถมยังแบ่งโซนสถาปัตยกรรมออกเป็นตั้งสองฝั่ง คือ จากทิศใต้ถึงทิศเหนือ แบ่งกลุ่มสถาปัตยกรรมเป็นฝั่งตะวันออกและตะวันตก ถ้าใครแข้งขาไม่ดีไม่แข็งแรง ก็เห็นทีจะเดินกันขาลาก ไปไม่ไหวกันแน่ ๆ >0<


ที่เห็นลิบ ๆ อีกฝั่งของสะพานที่ต้องข้ามไป ก็คือซุ้มประตูอีกชั้นหนึ่งฮ่ะ..แต่ขออิ่ป้าถ่ายรูปไว้เป็นที่ระทึกหน่อยนะคะ คริ คริ..


เข้ามาแล้วเจอรอยพระบาทสัมฤทธิ์จำลองค่ะ มีนักท่องเที่ยวและผู้แสวงบุญโยนเหรียญเอาไว้ภายในด้วย เท่าที่สังเกตดูเหรียญก็มีจากหลายมุมโลกอยู่เหมือนกัน


คะเนดูจากสายตาแล้ว..คุณพี่เห็นถึงความไกลของพระใหญ่แห่งวัดหลิงซานที่อยู่ห่างจากซุ้มประตูมั้ยคะ อิชั้นว่าจากปากทางเข้า ไปจนถึงพระใหญ่นู่น คงกินระยะไม่น้อยกว่า 1 กม.แน่ ๆ เยย ฮือออ..ตรูจะเดินไหวมั้ยล่ะเนี่ย Y^Y



เอ้า..หลวมตัวเดินเข้ามาละ ก็คงต้องก้มหน้าก้มตาเดินต่อไป แดดก็ร้อน ลมก็แรง แต่ขืนหยุดเดิน เวลาที่ไกด์ให้ก็คงไม่พอจะเดินได้ทั่วถึงแน่

ชักเริ่มยาวละ...ยกยอดไปเดินเที่ยวกันต่อในครั้งหน้าละกันนะ ^^



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai


วันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ไหว้พระใหญ่แห่งวัดเขาหลิงซาน ตอนที่ 1


ก่อนที่จะเขียนบทความพาเที่ยวตอนนี้ มีคนแอบกระซิบถามอิชั้นว่า ไอ้เจ้าเขาหลิงซานนี่มันใช่ที่เดียวกับเขาเหลียงซานที่เราเคยคุ้นหูคุ้นตาอิ่ตอนดูหนังจีนกำลังภายในรึเปล่าหว่า..... (เออ..นั่นสิ)

เอิ่ม.....จิ่บอกว่าอิชั้นค่อนข้างแน่ใจว่ามันเป็นคนละที่ฮ่ะ แต่เพื่อความชัวร์ อิชั้นก็เลยไปลองค้น ๆ ดู ว่าไอ้เจ้าเขาเหลียงซานที่ว่า มันอยู่ที่ไหนในเมืองจีนกันแน่ สรุปแล้วก็คือ เขาเหลียงซานนั้นก็คือเขาหินปูนที่อยู่ในเมืองเหลียงซานโน่นแน่ะฮ่ะ (ส่วนที่ไอ้ที่เราจะไปเที่ยวนี่มันอยู่ในเมืองอู๋ซีนะคุณผู้ชม) ที่นั่นจะเป็นแหล่งฝึกวิทยายุทธของจอมยุทธต่าง ๆ มีเรื่องราวเล่าขาน ตำนานแห่งผู้กล้าที่ถ่ายทอด แต่งแต้ม เรื่องราวของการต่อสู้มากมาย ซึ่งแน่นอนว่า..มันคนละฝาคนละฝั่งกับไอ้ที่เราจะไปเที่ยวกันในวันนี้แน่นอนอ่ะนะคะ >0</  แหม..แต่พูดถึงแล้ว ก็แอบอยากไปปีนเขาเหลียงซานขึ้นมาตลิด ๆ เนาะ ติดอยู่ที่ว่าคนที่เคยไปมาเค้ากลับมาเม้าท์มอยกันว่า ขาขึ้นโหดกว่าการเดินขึ้นภูกระดึง 10 เท่า แอ็กซ์..แล้วสังขารห่วย ๆ แบบอิชั้น จะไหวเร๊อะคุณพี่ !!!

วกกลับมาเดินเที่ยวแบบเจียมสังขารบนพื้นราบกับอิชั้นกันต่อดีกว่าค่ะ (กระซิก ๆ) วันนี้เราออกเดินทางจากเมืองหังโจวแต่เช้าเลย แต่ให้เช้ายังไงก็มาถึง เมืองอู๋ซี เอาเกือบเที่ยงอยู่ดี งานนี้ก็เลยต้องแวะกินข้าวกลางวันตามโปรแกรมกันก่อน ก่อนที่จะไปเดินย่อยไก่ย่อยผัก ใช้พลังงานกันในวัดเขาหลิงซานโน่นน่ะนะคะ

กินข้าวกลางวันกันเสร็จ ระหว่างทาง ไกด์ก็สาธยายให้ฟังถึงสถานที่ที่เราจะไปเที่ยวชมเล็กน้อยฮ่ะ เอ๊ะ..หรือจริง ๆ เค้าพูดเยอะ แต่อิชั้นฟังไม่ทันก็ไม่รู้ อ่ะ..เอาเป็นว่าเก็บมาแต่เฉพาะที่พอจำได้ก็ละกันนะคะ T^T

วัดหลิงซาน นั้น ก็คือวัดเก่าแก่ที่มีอายุยาวนานกว่า 1,000 ปีเลยทีเดียวค่ะ ที่นี่เป็นวัดขนาดใหญ่และมีชื่อเสียงที่ตั้งอยู่ในเมืองอู๋ซี และมีจุดเด่นตรงที่เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางประทานพร (พระใหญ่หลิงซานต้าฝ๋อ) ที่สูงที่สุดในประเทศจีน คือมีความสูงถึง 88 เมตร และมีน้ำหนักราว 700 กว่าตันแน่ะ  (เจ๋งสุด ๆ)โดยผู้ที่ขึ้นไปสักการะองค์พระปางประทานพรนั้น จะสามารถเดินขึ้นไปถึงฐานพระพุทธรูปได้เลย ส่วนในบริเวณวัดก็มีการแบ่งพื้นที่เพื่อสร้างสถานที่เที่ยวชมหลายจุด รายล้อมไปด้วยภูเขาถึงสามด้าน และมีทะเลสาบขนาดใหญ่อยู่เบื้องหน้า เรียกว่าถูกฮวงจุ้ยกันสุด ๆ

ในตอนหน้าเรามาเดินชมความสวยงามของบริเวณวัดแห่งนี้กันนะคะ




เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai