วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

เที่ยวเมืองอู๋ซี (Wuxi,無錫)


เช้าวันนี้เราตื่นกันแต่เช้ามืดฮ่ะ..เนื่องจากคุณไกด์แจ้งแล้วว่าจะออกเดินทางจากหังโจวไปเมือง อู๋ซี กันแต่เช้า ซึ่งก็นะ..มอนิ่งคอล์ลกันตั้งแต่ตีห้า (พี่คะ พี่จับหนูนอนบนรถบัสตั้งแต่เมื่อคืนเลยดีกว่ามั้ย) หกโมงกินข้าวในโรงแรม เจ็ดโมงล้อหมุน แปดโมงคาดว่าสมาชิกผู้ร่วมทัวร์คงหลับน้ำลายยืดบนรถกันต่อ (หรืออิชั้นยืดด..อยู่คนเดียวก็ไม่ยู้) Y^Y


จริง ๆ ถ้าจะทวงถามว่าทำไมทริปนี้อิชั้นได้ข้อมูล เกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของสถานที่ที่ไปเที่ยวกลับมาฝากน้อยนัก ก็อย่าได้โทษอิชั้นเลยนะคะ ขอให้ทุกท่านเล็งเป้าไปที่อิ่ตาไกด์ท้องถิ่นและบริษัทนำเที่ยวโน่น ที่จัดโปรแกรมทัวร์ด่วนนรกแตก แหกมันทุกเมืองแน่นเอี๊ยดถึงขนาดเน้..หญิงจะบอกว่าไม่ไหวก็ใช่ที่ เข้าตำราสังขารไม่ไหวแต่ใจยังสู้ของจริงเลยล่ะ เพราะฉะนั้นเมื่อมันเหนื่อยมาก ๆ เข้า ขึ้นรถทีไร อิชั้นก็หลับแป้กแม่มมมันได้ทุกสถานการณ์เยี่ยงนั้น >0</

อ่ะ..ก่อนจะพาเพื่อน ๆ ไปไหว้ พระใหญ่แห่งวัดเขาหลิงซาน ณ.เมืองอู๋ซี เรามาดูข้อมูลของเมือง ๆ นี้กันสักเล็กน้อยดีกว่าค่ะ

เมืองอู๋ซี นั้น เป็นเมืองที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานทีเดียวค่ะ ที่นี่ถือได้ว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรมเบาและได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองเซี่ยงไฮ้ของประเทศจีน เนื่องจากทางการจีนได้เริ่มทำการพัฒนาให้มีความเจริญก้าวหน้าทางอุตสาหกรรมเมื่อไม่นานมานี้

เมืองอู๋ซีนั้นก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 3 พันปีก่อน โดยเจ้าชายสองพระองค์ซึ่งได้ลี้ภัยมาจากทางตอนเหนือของประเทศจีน โดยเมื่อก่อนนั้นดินแดนนี้เรียกกันว่า "เหมย" (Mei) และเนื่องจากมีการขุดทำเหมืองดีบุกในบริเวณใกล้เคียง เมืองนี้จึงเป็นที่รู้จักในชื่อว่า 'หยูซี' (Youxi - เมืองที่มีดีบุก) จนกระทั่งแร่ดีบุกถูกขุดจนหมดเมื่อประมาณปี พ.ศ. 568 เมืองนี้จึงถูกเรียกกันในชื่อปัจจุบัน

เมืองอู๋ซีถือเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำฮ่ะ เพราะอยู่ริมทะเลสาบไท่หู ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในสี่ของเมืองที่ปลูกข้าวได้มากที่สุดของจีน มีพื้นที่กว้างใหญ่ราว 4,650 ตร.กม. และมีเขตติดต่อกับสองมณฑล คือมณฑลเจ้อเจียงและมณฑลเจียงซู การวางผังเมืองอู๋ซีมีลักษณะเป็นรูปวงกลม ซึ่งก็เป็นไปตามลักษณะของเมืองยุคเก่าของจีนอีกหลายเมือง ภายในเมืองมีคลองสายเก่าหลายสายตัดไขว้กันไปทั่ว ซึ่งปัจจุบันคลองสายหลักเหล่านั้นก็ยังเป็นเส้นทางสัญจรของเรือขนาดใหญ่ซึ่งใช้ขนสินค้าหนักกันอยู่เลยน่ะนะคะ

สถานที่ท่องเที่ยวที่เราจะไปเยี่ยมชมภายในเมืองอู๋ซีที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ก็ได้แก่ พระใหญ่แห่งวัดเขาหลิงซานค่ะ ในตอนหน้าของบล็อกทริปถูกใจ เราจะไปกราบขอพรจากองค์พระและเที่ยวชมความงามของวัดแห่งนี้ด้วยกันนะคะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai
อ้างอิงข้อมูลจาก วิกิพีเดีย



วันอังคารที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2556

HAI WAI HAI BAINA HOTEL,HANGZHOU (โรงแรมในเมืองหังโจว)


คืนนั้นกว่าจะหลุดผลั้วะออกมาจากโรงละคอนหรือสถานที่จัดแสดงจินตลีลาประกอบแสงสีเสียงของราชวงศ์ซ่งในเมืองจำลองได้ ก็ปาเข้าไปเกือบห้าทุ่มครึ่งฮ่ะ จริง ๆ เวลาของ เมืองจีน นี่จะไวกว่าของบ้านเรา 1 ชั่วโมงนะคะ ดังนั้นคงไม่ต้องบอกว่าแค่วันแรกของการเดินทางที่ต้องถูกไกด์ลากตุเลง ๆ เที่ยวไปตรงนู้นทีตรงนี้ที ก็เล่นเอาอิชั้นอดนอนจนตาแทบจะกลวงโบ๋เป็นนกเค้าแมวกันซะให้ได้ T^T

คืนนี้ตามโปรแกรมของวันเราจะพักค้างคืนกันที่โรงแรม HAI WAI HAI BAINA น่ะนะคะ ซึ่งอิชั้นก็แอบเรียกง่าย ๆ ตามประสาคนไม่ค่อยสันทัดภาษาจีนละกัน (จริง ๆ นอกจากภาษาไทยแล้ว อิชั้นก็ว่าตัวเองไม่เคยสันทัดภาษาไหนเป็นพิเศษ..ฮ่าาา..) ว่าเป็นโรงแรมที่ชื่อว่า โรงแรมให้ไว ให้(ไป)ไบนา (ซึ่งก็ไม่รู้จะไปทำไม ดึกขนาดนั้นแล้ว)..ซึ่งก่อนที่จะส่งเข้าที่พัก ทางไกด์ก็แอบเตือนสมาชิกผู้ร่วมทัวร์ที่เป็นผู้ชายกันเล็กน้อย ว่าเมื่อเข้าโรงแรมแล้ว ก็ขอให้พักผ่อนกันซะเลยนะจ๊ะ...อย่าเที่ยวริอ่านออกไปเดินชมนั่นชมนี่ยามดึกล่ะ เพราะอิ่ตอนขาไปท่านอาจไปครบสามสิบสอง แต่อิตอนขากลับท่านอาจได้ขาที่สามสิบสามติดก้านคอกลับมาด้วยก็ได้..(อันนี้อิ่นี่แอบบรรยายเกินจริงไปนี๊ดดด..นึง 555..)

จริง ๆ ถามว่าการเดินทางในแต่ละที่ เราควรจะออกไปดูแสงสียามค่ำคืนของเมืองที่เราไปเยือนรึเปล่า อันนี้ก็คงต้องดูกันก่อนล่ะฮ่ะ ว่าเมืองที่เราแวะไปเยือนนั้นเขามีมาตรฐานของความปลอดภัยสำหรับผู้คนและนักท่องเที่ยวมากน้อยเพียงไร หากเป็นเมืองที่มีความปลอดภัยสูง อย่างเช่น แถวยุโรป ญี่ปุ่น ออสเตรเลียไรงี้ก็ไม่ต้องกังวลฮ่ะ เพราะส่วนใหญ่แล้วจะค่อนข้างปลอดภัยดีทีเดียว เพราะฉะนั้นสำหรับคนที่อยากจะสัมผัสบรรยากาศยามค่ำคืนของเมืองที่ว่าก็สามารถที่จะออกมาเดินลั้นลาได้อย่างสบายใจ

แต่สำหรับที่นี่...เมืองจีน..ในวงเล็บแบบบึกบึนอีกทีว่า..เมืองจีน..คุ่ะคุณพี่..คุณบูรพาไกด์ท้องถิ่นเค้าเตือนไว้เลยอ่ะนะฮะ ว่าไม่เหมาะเป็นอย่างยิ่งสำหรับการออกมาเดินโต๋เต๋เที่ยวชมเมืองกลางดึกกลางดื่น เนื่องจากปัจุบันนี้พวกมิจฉาชีพมันเยอะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณสุภาพบุรุษที่เวลาไปถึงไหน ก็อยากไปให้ "ถึง"ที่นั่้น :P เพราะแม้ว่าเมืองหังโจวจะเป็นเมืองที่ค่อนข้างเจริญ และมีนักท่องเที่ยวเยอะ แต่ันั่นก็หมายถึงคนที่ทำมาหากินในทางไม่สุจริตเยอะตามไปด้วย อย่างเช่น..หากคุณเป็นคุณผู้ชายและออกไปเดินชมเมืองยามค่ำคืน ก็อาจจะมีชายชาวจีนเข้ามาตีสนิทถามไถ่ว่าอยากให้เขาพาเที่ยวชมเมืองมั้ย ถ้าคุณเผลอตกปากรับคำไปกับเขา ก็อาจจะถูกลวงให้ไปใช้บริการร้านอาหารหรือสถานบันเทิงที่มีหญิงสาวมาให้บริการ ซึ่งแน่นอนว่าแม้ว่าคุณไม่อยากจะใช้บริการ แต่เมื่อหลวมตัวเข้าไปถึงถิ่นเขาแล้ว จะเดินกลับออกมาเฉย ๆ ก็เห็นทีจะลำบาก ท้ายสุดแล้ว คุณก็อาจจะเสี่ยงทั้งความปลอดภัยของตัวเองและเงินในกระเป๋าด้วย เรียกว่าหมดตัวหมดตรูดเอาได้ง่าย ๆ นี่ไม่ได้ขู่นะ..นักเลงชาวจีนที่นี่กัดจริงเจ็บจริงขอโบก..

อ่ะ..เม้าท์แตกเยอะเกินไปละ มาดูบรรยากาศโดยรวมของห้องพักในโรงแรม HAI WAI BAINA กันดีกว่านะคะ


เตียงนุ้ม..นุ่ม ที่นอนหมอนหนุนก็สะอาดเอี่ยมอ่องดีฮ่ะ..อิชั้นแอบถูกใจหมอนเค้าแฮะ นึกอยากจะหนีบกลับมานอนบ้านสักใบ แต่กลัวตำหนวดจีนเค้าจะจับขังคุกขี้ไก่เอาอ่ะ..ไม่รู้ในเมืองไทยมีหมอนอารมณ์นี้ขายที่ไหนมั่ง


ที่นี่เค้าจะมีน้ำเปล่าฟรีให้สองขวดค่ะ นอกจากนั้นก็มีกาต้มน้ำและชาที่เป็นซอง ๆ ให้ ส่วนขนมนมเนยไม่ต้องมองหา คุณไกด์กลัวหมู่เฮาชาวคณะเปิบจนลืมตัว เลยสั่งแม่บ้านของทางโรงแรมเก็บเรียบตั้งแต่ยังไม่เข้าพักไปหมดละ


หลายครั้งที่เวลาเดินทางอิชั้นนึกอยากจะจดสิ่งละอันพันละน้อยกลับมาบ้านฮ่ะ แต่ทุกครั้งที่ขึ้นรถ..แม่มม..ก็หลับคอพับคออ่อนไปซะทุกที (ก็ตรูเหนื่อย T^T)..ไอ้อะไรที่อยากรู้ก็เลยไม่ได้รู้ ส่วนไอ้อะไรที่ไม่อยากรู้ก็เจือกตื่นขึ้นมาฟังเค้าทันซะงั้น..ใช้ปากกาจดที่ไกด์ท้องถิ่นเค้าบรรยายก็ไม่ใคร่จะทัน นี่สงสัยคราวหน้าต้องพกเครื่อง recorder ติดตัวมาด้วยสักอันแระ


บรรยากาศห้องพักโดยรวมใช้ได้ฮ่ะ..อากาศหนาวเย็นถึงใจ อิชั้นต้องอาบน้ำอุ่นจัด ๆ เป็นการช่วยคลายหนาว คลายปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่า การอาบน้ำล้างหน้าด้วยน้ำอุ่น จะทำให้หน้าอิชั้นอุดมสิวขึ้นเรื่อย ๆ แต่ทำไงได้ ถ้าไม่อาศัยน้ำอุ่น ก็สงสัยจะถอดใจไม่ต้ององต้องอาบกันล่ะ


แอคเซสซารี่ดีน่าดู..ไม่ได้สอบถามราคามาซะด้วย ว่าตกคืนละกี่บาทไทย แต่คาดว่าน่าจะเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวของเค้าอยู่


มีไดร์เป่าผมกับกระจกบานเล็กแบบมีขายืดเอาไว้แต่งหน้าด้วยนะ..เอ้ย..ตะเอ๊งง..เริ่ดซะมิมีอ่ะ.. >0</


สารภาพว่าไปอยู่จีน 4 วัน ไม่เคยตะกายลงอ่างเลยแม้แต่ครั้งเดียว..


ปวดมั้ย..เย้ยย..ถามอะไรอย่างนั้น อิอิ (ไปต่างแดนท้องผูกกลับมาทุกที)


มีครบทุกอย่างตามสูตรของทางโรงแรม แต่ยังแพ้เมืองไทยนะคะ เมืองไทยเราบางที่มีแป้งกระป๋องเล็ก ๆ เอาไว้ทาถู ๆ ให้ด้วย


สรุปแล้ว..ที่พักแสนสบายจริง ๆ ค่ะ พรุ่งนี้เราจะตื่นแต่เช้ามืดเพื่อเดินทางไปเที่ยวพระใหญ่แห่งเมืองอู๋ซีด้วยกันนะคะ


สถานที่ : HAI WAI HAI BAINA HOTEL,HANGZHOU
ADRESS : NO.456 Sheng Ban Road,Hangzhou
Tel : 0571-88175555 Fax : 89706969


เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai