วันอังคารที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

สนามรังนกแห่งเมืองซูโจว (ศูนย์เทคโนโลยีและศิลปวัฒนธรรมซูโจว)


กว่าจะเดินทางจากเมืองอู๋ซีมาถึง ซูโจว ก็เล่นเอาเย็นย่ำสนทยากันแล้วฮ่ะ ดังนั้นแทนที่จะได้เที่ยวชม สนามรังนกแห่งเมืองซูโจว หรือที่มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ศูนย์เทคโนโลยีและศิลปวัฒนธรรมซูโจว ก็เล่นเอามืดตึ้ดตื๋อ..มืดไม่มืดเปล่า แถมหนาวจิ๊ปเผงอีกด้วย T^T ดังนั้น พอกินข้าวกินปลากันเสร็จและรถพาคณะลูกทัวร์มาถึงด้านหน้าของสนามรังนกปั๊บ ก็เลยมีบรรดาคุณเจ๊และเหล่าบรรดาอาตี๋อาหมวยอาอึ้มทั้งหลายที่สมัครใจ ไม่ลงจากรถ !!!

เย้ย..มาถึงที่นี่แล้วนะเฟร้ย..ลงไปดูสักนี๊ดดนึงก็ยังดี..ให้เห็นว่าหน้าตาไอ้สนามรังนกนี่มันเป็นยังไง รู้ล่ะ..ว่ามันหนาว เรียกได้ว่าเดินกันไปแบบปากคอสั่น แต่อุตส่าห์ดั้นด้นกันมาถึงที่หมายแล้วจะไม่ลงไปดูมันก็คงกระไรอยู่

อย่ากระนั้นเลยฮ่ะ..เดินขาสั่นตามอิชั้นลงจากรถกันเถอะ >0<


โอ้โห....หะแรกที่อิชั้นเห็น สนามรังนกซูโจว ที่มีแสงไฟสีน้ำเงินส่องวับวามอยู่ในความมืด (ข่าวว่าไฟสีน้ำเงินนี้กระพริบเป็นสีอื่นได้ด้วยนะ) อิชั้นถึงกับต้องร้องอุทานอยู่ในอกเลยฮ่ะ....นี่พี่คุณพี่ปั่นไฟใช้เองใช่ป่ะเนี่ย ทำไมถึงประดับประดาแสงไฟซะอะร้าอร่ามขนาดนี้


ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาอีกนิด ว่าสนามรังนกซูโจวที่เห็นอยู่นี่ หน้าตาเป็นฝาแฝดกันกับสนามรังนกที่เมืองปักกิ่งฮ่ะ เนื่องจากใช้นักออกแบบคนเดียวกัน โดยการออกแบบนั้นได้รับแรงบันดาลใจจากสวนป่าซูโจว และก่อสร้างให้หันหน้าเข้าหาแม่น้ำตามหลักแห่งฮวงจุ้ยน่ะนะคะ

เสียดายที่ไม่ได้มาถึงช่วงกลางวัน แถมมีเวลาแวะให้ดูแป๊บเดียวพอให้รู้ว่ามาตามรายการทัวร์แล้วนะยะ งานนี้อิชั้นอดเข้าไปดูรายละเอียดหรืออะไรต่อมิอะไรใกล้ ๆ เลยง่ะ กระซิก กระซิก.. T^T

ตกลงเป็นอันว่างานนี้หมู่เฮาชาวคณะได้ชื่อว่ามาเที่ยวเมืองซูโจวกันเรีัยบร้อยแล้วฮ่ะ (เอิ่ม..มันใช่หรือคะคุณพี่) แม้ว่าจะเป็นการเหยียบย่างเท้าลงแผ่นดินซูโจวแค่ติ่งเดียวของเมืองก็เหอะ คิด ๆ ดูแล้วก็น่าเจ็บใจเหมือนกันเนอะ อุตส่าห์ข้ามน้ำข้ามทะเลมาตั้งไกล เที่ยวได้แค่เนี้ยะ..เอาเป็นว่าไหน ๆ ก็ใช้เวลาอยู่ที่เมืองนี้แค่เล็กน้อย เรามาดูรายละเอียดของเมืองซูโจวเอาไว้เผื่อได้กลับมาเที่ยวซ่อมกันสักหน่อยดีกว่านะคะ

เมืองซูโจว (Su Zhou City) นั้นตั้งอยู่ที่มณฑลเจียงซูตอนใต้ฮ่ะ ที่นี่ถือเป็นอีกหนึ่งเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษของจีน เป็นเมืองสำคัญทั้งทางด้านการศึกษา ศิลปะ วัฒนธรรม การขนส่งและขึ้นชื่อว่าเป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจของจีนอีกด้วย

ถามว่าเมืองนี้มีอะไรดี ? นั่นสิ..เมืองนี้มีอะไรดี ปี ๆ นึงถึงได้มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวกันมากหน้าหลายตา ซูโจวนั้นนับว่าเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมฮ่้ะ ที่นี่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม ในเมืองและนอกเมืองเต็มไปด้วยสวนโบราณ โดยในช่วงศตวรรษที่ 16-18 ซูโจวนั้นมีสวนโบราณมากกว่า 200 แห่ง (ปัจจุบันมีสวนที่ได้รับการบูรณะและอนุรักษ์อย่างสมบูรณ์แล้วกว่า 10 แห่ง) นอกจากนี้ยังมีลำคลองต่าง ๆ มากมายเป็นอันดับหนึ่งในลุ่มแม่น้ำแยงซีเกียงตอนใต้ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มี่ชื่อเสียงทั้งทางด้านความงาม สายน้ำขุนเขา และสวนโบราณ จนได้รับการย่องย่องในคำกล่าวประโยคหนึ่งว่า "สวนโบราณแห่งเจียงหนาน สุดยอดในปฐพี สวนโบราณแห่งซูโจว สุดยอดในเจียงหนาน” และได้รับฉายาว่าเป็น “เมืองสวรรค์ในโลกมนุษย์” ทีเดียวนะคะ

เที่ยวชมสนามรังนกแห่งเมืองซูโจวกันเรียบร้อยแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวแล้ว T^T เดี๋ยวเราไปเข้าที่พักกันนะคะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai
อ้างอิงข้อมูลจาก thai.cri.cn/441/2010/06/28/242s176765.htm