ยิ่งใกล้เวลาบ่ายสองโมงเข้าไป ผู้คนที่เดินทางมาเที่ยวหรือมาสักการะ พระใหญ่แห่งวัดเขาหลิงซาน ก็ยิ่งมากขึ้นทุกขณะฮ่ะ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริเวณลานน้ำพุ เจ้าชายสิทธัตถะ ซึ่งจะเป็นส่วนจัดแสดงของน้ำพุประกอบดนตรีและบทสวดมนต์ จำลองการประสูติของพระพุทธเจ้าที่ถือกำเนิดในดอกบัว ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมันเป็นไฮไลต์ของที่นี่ซึ่งจัดแสดงเพียงรอบเดียวต่อวัน จึงมีบรรดาอาตี๋อาหมวย อาอึ้มอาซ้อ ทั้งหลายมาเป็นเพื่อนร่วมลานด้วยอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง
อุ๊ย...อบอุ่นจุงเบย..เอ๊ย..อบอุ่นจังเลย T^T
บ่ายสองโมงตรงเผง..การแสดงก็เริ่มขึ้น..หัวจ่ายน้ำแรงดันสูงดันเริ่มดันสายน้ำออกมาเป็นจังหวะ
สายน้ำเริ่มฉีดแรงขึ้น สูงขึ้น ในขณะเดียวกันกับที่ฐานดอกบัวก็เริ่มหมุนไปรอบ ๆ ดังนั้นไม่ว่าจะเรานั่งหรือยืนชมอยู่จุดไหนของลานน้ำพุ ก็จะได้เห็นการแสดงโดยทั่วถึงกันหมดน่่ะนะคะ
ดอกบัวค่อย ๆ บานออก เผยให้เห็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจำลองเมื่อครั้งแรกประสูตรมากขึ้นทุกที ลมแรงมากฮ่ะ ดังนั้นละอองน้ำพุที่ปลิวมาตามแรงลมก็เลยฟุ้งไปทั่ว ผู้คนที่มารวมกัน ณ.ลานน้ำพุแห่งนี้ก็เลยเหมือนจะได้รับการประพรมน้ำมนต์โดยทั่วถึงกัน
เอิ่ม..อ่านเกล็ดความรู้คั่นเวลากันไปแล้ว ทีนี้ก็กลับมาดูการแสดงน้ำพุประกอบบทสวดมนต์กันต่อ แหะ ๆ อิชั้นว่ามันก็เหมือนกับพวก น้ำพุเต้นระบำแถวบ้านเราแฮะ คือจะมีหัวฉีดน้ำพุแรงดันสูงค่อย ๆ ฉีดสายน้ำออกมาเป็นจังหวะ ๆ ระหว่างนั้นก็จะมีการบรรยายและบทสวดมนต์เป็นภาษาจีนประกอบด้วย...อิชั้นยืนฟังอย่ืางตั้งใจเค่อะ แม้ว่าจะไม่เข้าใจห่ามอะไรเลยสักคำนึงก็เหอะ (ขอวุ้่นแปลภาษาของพี่ม่อนเป็นของว่างสักถาดนึงได้มั้ยเค๊อะ >0<)
เมื่อจบการแสดง ก็จะมีผู้คนพากันนำภาชนะ ไม่ว่าจะเป็นแก้ว ขวด หรืออะไรต่าง ๆ มารองน้ำมนต์ที่ไหลบ่าลงมาจากภายในดอกบัว ถือเป็นน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นสิริมงคลแก่ผู้ที่ได้รับน่ะนะคะ
ในตอนหน้าของทริปถูกใจ เราจะไปเที่ยวชม สนามรังนกของซูโจวกันฮ่ะ แล้วกลับมาพบกันได้ใหม่ในครั้งหน้านะคะ
เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai