วันพฤหัสบดีที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2556

เมืองจำลองซ่ง ซ่งเฉิง (宋城) ตอนที่ 1



ออกจากร้านขายผลิตภัณฑ์ผ้าไหมซึ่งเป็นไฟต์บังคับของลูกทัวร์ทุกคณะที่ต้องมาเยือนแล้ว เราก็แว่บไปกินข้าวเย็นกันก่อนค่ะ ซึ่งอาหารแต่ละมื้อก็หน้าตาคล้าย ๆ กัน นั่นก็คือมักจะมีอาหารพวกหมู,ปลา,ผัดผัก,หมั่นโถว เป็นหลัก ตบท้ายด้วยผลไม้หลังอาหาร พวกแตงโม ส้ม ที่แปลกกว่านั้นมีอยู่มื้อนึง อิชั้นเจออ้อยด้วยอ่ะ เออแปลกดี ที่นี่เค้าฝานอ้อยเป็นท่อนเล็ก ๆ มาให้สมาชิกบนโต๊ะร่วมเคี้ยวดูด ๆ แทนของหวานดั้ว >.<"


นับเป็นกรรมชนิดไม่ต้องแบของคนชอบเที่ยวแบบอิชั้นฮ่ะ เนื่องจากกินอะไรกับเค้าก็ยาก ผักเผิ่กผลไม้ก็กินได้น้อยชนิด ดังนั้้นเมื่อต้องคอยจิ้มแต่พวกหมูพวกไก่ หนัก ๆ เข้า ก็พาลเอาไม่เจริญอาหารซะงั้น T^T

อ่ะ..อย่าบนให้มากความไปเลย นึกซะว่าเราตั้งใจมาเที่ยวเนาะ ไม่ได้ตั้งใจมากิน..เค้าให้อะไรมาก็แหล่ก ๆ เอ๊ย..กิน ๆ กันตายไปเหอะ สามสี่วันเดี๋ยวก็ได้กลับบ้านไปกินไข่เจียวน้ำปลาพริกละ เรามาพาเที่ยวกันต่อดีฝ่า (Oh, Nooooo.......กระัซิก กระซิก)

หลังอาหารเย็น ไฮไลท์ช่วงค่ำคืนของวันนี้ก็คือการไปดู การแสดงแบบราชวงศ์ซ่ง ในเมืองจำลองโบราณที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีนฮ่ะ


เมืองจำลองสมัยราชวงศ์ซ่ง นั้น ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองหังโจวค่ะ หลาย ๆ คนพูดว่าที่นี่ถือเป็นไฮไลท์อีกแห่งหนึ่งของ เมืองหังโจว ก็เพราะนอกจากจะเป็นเมืองจำลองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศจีน โดยภายในตัวเมืองจำลองนั้น ได้มีการออกแบบก่อสร้างอาคารบ้านเรือนในยุคโบราณสมัยราชวงศ์ซ่งรูปแบบต่าง ๆ มีทั้งทิวทัศน์ริมแม่น้ำ จัตุรัสราชวงศ์ซ่ง จัตุรัสมังกร จตุรัสเขาเซียน รวมไปถึงศาลาแบบต่าง ๆ นอกแล้ว ที่นี่ยังมีการแสดงในแบบราชวงศ์ซ่งที่สวยงามตระการตาให้รับชมอีกด้วย


สนนราคาค่าเข้าชม..จริง ๆ แล้วอิชั้นไม่รู้ว่ามันเท่าไหร่กันแน่ค่ะ >0</ เนื่องจากทุกอย่างทางทัวร์เค้าออกให้หมด แต่จากการค้น ๆ คุ้ย ๆ ดูข้อมูลก็พบว่า มีคนที่เดินทางไปเที่ยวมาบ่นให้ฟังถึงราคาตั๋วที่แพงระยิบ คืออยู่ที่ 80 หยวน หรือประมาณ 400 บาทเลยทีเดียว (เออ..แพงฟร่ะ) อันนี้คือราคาค่าเข้าเมืองจำลองอย่างเดียวนะเค๊อะ หากท่านจะรับชมการแสดงที่กล่าวถึงประวัติศาตร์ความเป็นมาของเมืองหังโจวในราชวงศ์ซ่ง ระเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันด้วยแล้ว คุณพี่ก็ต้องจ่ายค่าเข้าชมเพิ่ม รวมเป็น 260 หยวน ซึ่งก็เท่ากับ 1,300 บาทเลยเชียวล่ะ (โต๊ะจายหมดเลย)

ในตอนหน้าหลังจากผ่านประตูเมืองจำลองเข้าไปแล้ว เราไปชมบรรยากาศด้านในด้วยกันนะคะ



เรื่องและภาพประกอบโดย Pacharawalai